บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (บริษัท) ได้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ผู้สมัคร บุคลากรและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท (ท่าน) โดยบริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น โดยให้มีผลบังคับใช้กับพนักงานและบุคลากรทุกคน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท เพื่อกำหนดเป็นแนวทางการปฏิบัติและยึดถือเป็นหลักในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างเคร่งครัด ภายใต้หลักเกณฑ์ ระเบียบ และมาตรการที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจะมีการนำไปใช้ตามระเบียบการปฏิบัติและถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีรายละเอียดดังนี้


ข้อ 1 คำนิยาม


บริษัท หมายถึง บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)


ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ


ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด


ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล


เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลนั้นบ่งชี้ไปถึง


การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


ข้อ 2 วัตถุประสงค์และการเก็บรวบรวมเปิดเผยการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน


2.1 เพื่อการให้บริการ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ในการพิจารณารับประกันภัยการวางแผนทางการเงิน และการบริหารจัดการเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่จะมีในอนาคต ตลอดจนการดูแล การบำรุงรักษา และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดังกล่าว


2.2 เพื่อการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เช่น การชำระเบี้ยประกันภัย หรือ การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้มีอำนาจปกครอง ของผู้เอาประกันภัย (แล้วแต่กรณี)


2.3 เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


2.4 เพื่อยืนยัน และ/หรือ ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าใช้บริการผ่านช่องทาง ต่าง ๆ หรือการติดต่อกับบริษัท


2.5 เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท


2.6 เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท


2.7 เพื่อการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ/หรือ บริการอื่น ๆ ของบริษัท อาทิ การให้คำแนะนำและ/หรือ ข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ในการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด รวมถึง การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท


2.8 เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและขยายธุรกิจของบริษัท


2.9 เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมในการ


2.9.1 ตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดหรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย


2.9.2 ตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานรัฐหรือรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยอยู่


2.9.3 บังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท


2.9.4 ปกป้องการดำเนินธุรกิจของบริษัท


2.9.5 ปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของบริษัท บุคคลากร และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น


2.9.6 เยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น


2.9.10 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแลและให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับ หรือข้อผูกพันที่ภาครัฐกำหนด


ทั้งนี้ วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการแจ้งเมื่อบริษัทมีการขอข้อมูลส่วนบุคคล


ข้อ 3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ


3.1 ข้อมูลที่ได้รับเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทำการลงทะเบียน หรือกรอกใบสมัครขอเอาประกันภัย หรือใช้บริการอื่น ๆ ของบริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด เพศ ที่อยู่ อีเมล ข้อมูลด้านการเงินและสุขภาพ เป็นต้น


3.2 ข้อมูลจากการสมัครสมาชิก ข้อมูลในการสร้างบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ที่ถูกสร้างโปรไฟล์ ที่ประกอบด้วยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัท เพื่อการเข้าใช้บริการในช่องทางการให้บริการของบริษัท อาทิ แอปพลิเคชันการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และ/หรือ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ได้แก่ บัญชีออนไลน์ หรือ บัญชี ของแอปพลิเคชัน ที่ให้บริการของบริษัท ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้เพื่อทำการสมัคร ต่าง ๆ ได้แก่ สมัครเข้าร่วมกิจกรรม และ/หรือ ติดต่อกับบริษัทผ่านทางเว็บไซต์หรือทางช่องทางอื่น ๆ ตามที่บริษัทกำหนด


3.3 ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารต่าง ๆ จากการทำแบบสำรวจ หรือข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ความพึงพอใจ ความสนใจ หรือพฤติกรรมการบริโภค เป็นต้น


3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับบริษัท หรือกับบริษัทย่อย หรืออื่น ๆ เช่น ข้อมูลการสมัครงาน ข้อมูลการสมัครเป็นตัวแทน หรือ นายหน้าประกันชีวิต ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้แนะนำการลงทุน ข้อมูลเพื่อการเข้าเสนอราคา ข้อมูลผู้เอาประกันภัย ข้อมูลกรมธรรม์และความคุ้มครอง ข้อมูลเบี้ยประกันภัย ข้อมูลการใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขกรมธรรม์ประกันภัย และประวัติการชำระเงินซึ่งรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารหรือการชำระเงินอื่น ๆ รวมทั้ง วันที่และเวลาที่ชำระเงิน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำธุรกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


3.5 ข้อมูลจากการเข้าชม หรือใช้เว็บไซต์ของบริษัท เว็บไซต์อื่น ๆ ของบริษัทย่อย หรือแอปพลิเคชันของบริษัท หรือที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ ข้อมูลการใช้โซเชียลมีเดียและการโต้ตอบกับโฆษณาออนไลน์ของบริษัท เช่น รุ่นและประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดเข้าชมเว็บไซต์ ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเข้าถึงการบริการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แล็ปท็อป หรือ สมาร์ตโฟน ข้อมูลประเภทระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม ที่อยู่ IP address ของอุปกรณ์ หรือเครื่องมือปลายทาง ข้อมูล Location ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการและผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าชมหรือค้นหา


3.6 ข้อมูลจากบันทึกการติดต่อของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท ซึ่งเก็บในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ หรือ การบันทึกเสียงสนทนา หรือการบันทึกภาพผ่าน CCTV เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อกับบริษัท เช่นศูนย์บริการลูกค้าของบริษัท รวมไปถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อที่ทำการวิจัยต่าง ๆ อาทิ SMS Social Media แอปพลิเคชัน หรือ อีเมล เป็นต้น


3.7 ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าสู่ระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook Twitter และ Line เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้าสู่บริการใด ๆ ของบริษัทเช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว


ข้อ 4 ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่บริษัทจะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ ในเรื่องของการประกันภัย บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาประกันภัยสิ้นผลบังคับระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีส่งเงินครบกำหนดเข้ากองทุนประกันชีวิต หรือ กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น


ข้อ 5 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอก


ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกประมวลผล โดยบริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น การจัดส่งข้อมูลเท่าที่จำเป็นรวมถึงการมีข้อตกลงรักษาความลับหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processing Agreement) กับผู้รับข้อมูลดังกล่าว


ข้อ 6 การเปิดเผยและถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล


6.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก และ/หรือ องค์กร หรือหน่วยงานภายนอกเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้


6.1.1 ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นคนกลางประกันภัย ได้แก่ ตัวแทน หรือ นายหน้าประกันชีวิต ที่ปรึกษาทางการเงิน และ ผู้แนะนำการลงทุน ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท


6.1.2 คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทย่อย และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก เพื่อให้บริการในการนำเสนอสิทธิประโยชน์และบริการอื่น ๆ ของบริษัทแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การดำเนินการด้านบัตรเครดิต การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล/SMS การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ และการรับประกันภัยต่อ การสำรวจความพึงพอใจและการทำวิจัย การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยจะมีการทำสัญญารักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ กรณีนิติบุคคลจะต้องมีมาตรฐานด้านความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ


6.1.3 หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย


6.2 การโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย อาทิเช่น


6.2.1 การทำประกันภัยต่อให้กับบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ


6.2.2 กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นในการจัดเก็บ และ/หรือ โอน ถ่าย ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการจัดเก็บ


6.2.3 การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) บริษัทจะพิจารณาองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยในระดับสากล และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เป็นต้น


ข้อ 7 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ


ในกรณีที่บริษัทมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะคำนึงและพิจารณาว่าประเทศปลายทางได้ถูกรับรองว่ามีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ทั้งนี้ กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศยังสามารถกระทำได้หากเข้าข้อยกเว้นกรณีเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย, ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล, เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญา, ป้องกันระงับอันตรายต่อชีวิต หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ


ข้อ 8 การรักษาความมั่นคงปลอดภัย


8.1 บริษัทจะดำเนินการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ทั้งมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) เช่น การกำหนดรหัสผ่าน การเข้ารหัส (Secure Sockets Layer/SSL) ระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย เป็นต้น และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) การกำหนดนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ การรักษาความลับ กำหนดสิทธิเข้าถึง การประเมินและจัดการความเสี่ยง การกำหนดหลักเกณฑ์ ข้อบังคับ โดยมีการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและทบทวนปรับปรุงมาตรการทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข นำข้อมูลไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ


8.2 การเข้าถึง ใช้ แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม จำกัดเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเท่านั้น


8.3 ในกรณีที่สถานะความเป็นลูกจ้างของบริษัทสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม การเข้าถึง ใช้ แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจะสิ้นสุดลงทันที โดยลูกจ้างดังกล่าวจะต้องไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาจากการปฏิบัติงานออกไปเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท


ข้อ 9 การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล


ในกรณีที่เกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการแจ้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบภายใน72ชั่วโมง นับแต่เมื่อบริษัททราบถึงเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือกรณีที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการแจ้งเหตุละเมิดพร้อมแนวทางเยียวยาเหตุละเมิดดังกล่าวให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้า


ข้อ 10 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมาย โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้หากมีกรณีที่บริษัทต้องปฏิเสธคำร้องขอ บริษัทจะแจ้งเหตุแห่งการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรับทราบ


10.1 สิทธิขอเพิกถอนความยินยอม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ โดยบริษัทจะแจ้งถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอนความยินยอมดังกล่าวให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ


10.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทรวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม ทั้งนี้ บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการเข้าถึงหรือขอรับสำเนานั้นส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น


10.3 สิทธิขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น


10.4 สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในเวลาใดก็ได้ หากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สถิติ ทั้งนี้ บริษัทสามารถปฏิเสธคำร้องขอได้หากเป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือกรณีที่บริษัทแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายสำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้ง การใช้สิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามกฎหมาย


10.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว


10.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัท อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทไม่มีความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


10.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด


ข้อ 11 บทกำหนดโทษ


ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ของตน หากละเลย หรือละเว้นไม่สั่งการ หรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตน อันเป็นการฝ่าฝืนนโยบายฉบับนี้ จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมาย และ/หรือความเสียหายขึ้น ทั้งนี้ หากความผิดดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และ/หรือบุคคลอื่นใด บริษัทอาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอย่างถึงที่สุด


ข้อ 12 การปฏิบัติตามนโยบาย


เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายฉบับนี้ บริษัทมีการทบทวนการปฏิบัติงานของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการด้านข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติแก่พนักงานและบุคลากรของบริษัทในการยึดถือปฏิบัติเพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


ข้อ 13 การทบทวนนโยบาย


บริษัทจะทำการทบทวนนโยบายนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อพิจารณาปรับปรุงตามสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย

แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy)
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy